![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
พระอัจฉริยภาพด้านการสื่อสาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระอัจฉริยภาพในทุกสาขาที่สนพระราชหฤทัย ด้วยทรงศึกษามุ่งมั่นจริงจัง ทรงทดลองปฏิบัติจนรู้แจ้ง เห็นจริง และทรงนำเทคโนโลยีสาขาวิชาเหล่านั้นมาทรงประยุกต์ใช้เพื่อความร่มเย็นผาสุกของพสกนิกร ตลอดจนความมั่นคั่งของประเทศชาติ และพระราชอัจฉริยภาพด้านวิทยุสื่อสาร ก็เป็นพระราชอัจฉริยภาพหนึ่งในหลายด้าน ที่สะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อการสื่อสารของชาติอย่างหาที่สุดมิได้ |
|
*** ทรงสนพระทัยด้านสายอากาศและสายนำสัญญาณ พระองค์ทรงจับจุดสำคัญของการรับ-ส่งวิทยุสื่อสารได้ โดยรับสั่งว่า 'การรับวิทยุก็ดี การส่งวิทยุก็ดี ถ้าไม่มีสายอากาศหรือสายอากาศไม่ดี จะใช้เครื่องส่งกำลังสูงเพียงใด เครื่องรับจะดีเพียงใด ก็ไม่สามารถช่วยให้การสื่อสารทางวิทยุมีประสิทธิภาพสูงได้' ดังนั้นจึงมีความสนพระทัยและศึกษาอย่างละเอียดเกี่ยวกับคุณลักษณะของสายอากาศ โดยหลังจากที่ได้ทรงศึกษาทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติด้วยพระองค์เองอย่างถ่องแท้แล้ว จึงทรงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาสายอากาศเพื่อนำมาใช้ประโยชน์แก่ประเทศชาติ ประมาณกลางปี พ.ศ. 2513 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุธี อักษรกิตต์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ซึ่งได้ช่วยราชการอยู่ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการทหารเข้าเฝ้าฯ และทรงมีพระราชดำริให้ออกแบบและสร้างสายอากาศย่านความถี่สูงมากขึ้น โดยมีพระราชประสงค์เพื่อใช้สายอากาศเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาปรับปรุงการใช้งานของเครื่องวิทยุให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แทนการนำเครื่องวิทยุต่างๆไปปรับปรุงแก้ไขซึ่งเป็นการยุ่งยากซับซ้อนกว่า ในการพัฒนาสายอากาศดังกล่าว พระองค์ได้ทรงกำหนดวัตถุประสงค์ของงานที่จะใช้ และคุณสมบัติทางเทคนิคด้วยพระองค์เอง และเมื่อนำขึ้นน้อมเกล้าฯถวายจะทรงทดลองใช้งานและพระราชทานคำแนะนำ เพื่อพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จนเกิดเป็นสายอากาศ สุธี 1 สุธี 2 สุธี 3 และสุธี 4 ซึ่งต่อมาภายหลังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ประกาศใช้สายอากาศทั้ง 4 แบบ ดังกล่าวไว้ในราชกิจจานุเบกษา *** VR 009 สัญญาณจากฟ้า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงแก่ปวงนักวิทยุสมัครเล่นในประเทศไทยและแก่กรมไปรษณีย์โทรเลข ที่พระองค์ทรงสนพระทัยในการติดต่อสื่อสารทางวิทยุในเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ทรงทดลองการแพร่กระจายคลื่นวิทยุและรับสัญญาณด้วยพระองค์เอง ทรงเคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของการติดต่อสื่อสาร ทั้งในแง่ความถูกต้องของคำพูดติดต่อสื่อสารและการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล พระองค์จะทรงทักท้วง ตักเตือน หากนักวิทยุสมัครเล่นคนใดมิได้ปฏิบัติตามระเบียบ ในขณะเดียวกันจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานคำแนะนำอธิบายปัญหาเทคนิคด้วยภาษาง่ายๆ ให้หายข้องใจได้ทุกครั้ง ด้วยเหตุนี้เมื่อกรมไปรษณีย์โทรเลขได้ก่อตั้งชมรมวิทยุอาสาสมัคร หรือ เรียกย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า VR (Voluntary Radio) ขึ้น กรมไปรษณีย์โทรเลขจึงได้ทูลเกล้าฯถวายสัญญาณเรียกขาน 'VR 009' แด่พระองค์ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2524 ด้วยรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุด พระองค์ทรงใช้วิทยุกับศูนย์สายลมกรมไปรษณีย์โทรเลข เพื่อทดสอบสัญญาณหลายครั้ง ในบางโอกาสพระองค์ทรงพระราชทานคำแนะนำทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการปรับแต่งเครื่องรับ-ส่งวิทยุที่มีความซับซ้อน ตลอดจนพระราชทานความรู้เกี่ยวกับสายอากาศและการเผยแพร่กระจายคลื่น และลักษณะการถูกรบกวนของคลื่นวิทยุในข่ายต่างๆ และวิธีการที่จะแก้ไขการรบกวนนั้นด้วย เช่นในปี พ.ศ. 2528 พระราชทานคำสอนเกี่ยวกับการใช้เครื่องรับ-ส่งวิทยุของศูนย์สายลมตราอักษร YAESU แบบติดตั้งประจำที่รุ่น FT-726R จนกระทั่งพนักงานวิทยุของศูนย์สายลมมีความเข้าใจถึงวิธีการใช้เครื่องรับ-ส่งวิทยุและสามารถปรับปุ่มต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งขณะนี้เครื่องดังกล่าวยังคงอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หลังจากกรมไปรษณีย์โทรเลขเปลี่ยนเป็น สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และ กสทช. ในปัจุจบัน นอกจากนั้นยังได้พระราชทานคำแนะนำในการแก้ปัญหาการรบกวน จากเครื่องวิทยุกระจายเสียง พระราชทานคำแนะนำป้องกันการฟ้าผ่า พระราชทานกำลังใจแก่สมาชิกชมรมวิทยุสมัครเล่นที่ออกไปช่วยเหลือรถเสียเมื่อเกิดน้ำท่วมและทรงแนะนำทางกลับบ้าน |
|
นับเป็นสิริมงคลกับศูนย์สายลมที่ทรงติดต่อเข้ามายังศูนย์อย่างไม่ถือพระองค์และปฏิบัติการติดต่อสื่อสารถูกต้องตามระเบียบวินัยเฉกเช่นนักวิทยุ สมัครเล่นทั่วไป เหตุการณ์สำคัญที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานความช่วยเหลือแก่ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข และยังจารึกไว้ในความทรงจำตราบเท่านาน คือ เมื่อกรมไปรษณีย์โทรเลขได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 8-17 ธันวาคม 2528 ให้รับผิดชอบเกี่ยวกับระบบการติดต่อสื่อสารสำหรับการประสานงานของคณะกรรมการสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและสนามแข่งขันทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด พระองค์พระราชทานคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาการรบกวนของเครื่องวิทยุถ่ายทอดสัญญาณซึ่งจะใช้ในเครือข่ายของคณะกรรมการต่างๆ จนเครื่องวิทยุถ่ายทอดสัญญาณใช้งานได้ตามปกติ ทำให้งานของประเทศชาติไม่เสียหาย นับว่าทรงพระปรีชาสามารถสูงยิ่งและในคราวเกิดวาตภัยที่อ.สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ในปี พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ประชาชนจำนวนมาก โดยศูนย์วิทยุสายลม ที่กรุงเทพฯแจ้งเตือนไปยังพื้นที่ประสบภัย เหตุพายุพัดถล่มพื้นที่ และตลอดแนวเทือกเขาตะนาวศรี ทำให้มีผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือจำนวนมาก ในเหตุการณ์นั้น ผู้ประสบภัย เป็นชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารยากต่อการเข้าไปช่วยเหลือ แม้อาสาสมัคร ที่ได้รับแจ้งจะเข้าไปถึง แต่ไม่สามารถติดต่อกับศูนย์สายลมส่วนกลาง เพื่อประสานขอกำลังเสริม หรือ ประสานเส้นทางก็ทำไม่ได้เพราะสัญญาณขาดหาย พระองค์ทรงติดต่อเข้ามาที่ศูนย์สายลม ด้วยเสียงวิทยุรหัส VR 009 เข้ามาในสาย นั่นคือ พระสุรเสียงของพระองค์ที่ทรงวิทยุเข้ามาพระราชทานคำแนะนำ 'ถ้าหากว่าอยากให้มีกำลังสัญญาณสูงขึ้นไป จะต้องเร่งย้ายไปหน่อย ถ้าอยากให้เต็มที่ขึ้น' เมื่อพระองค์ให้คำแนะนำให้ไปตั้งศูนย์บนที่สูง เจ้าหน้าที่จึงนำรถยนต์ติดตั้งเครื่องรับส่งวิทยุ ซึ่งเป็นสถานีวิทยุเคลื่อนที่ไปจอดปฏิบัติการบนที่สูงขึ้น จนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ จึงทำให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้สำเร็จ ตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ปกครองไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินตามรอยสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชสืบมา ธ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐเปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตาธิคุณแก่ปวงอาณาประชาราษฎร์ อย่างหาที่สุดมิได้ |
|
แหล่งที่มา เอ็มจีอาร์ ออนไลน. (2559). ในหลวงกับพระอัจฉริยภาพด้านการสื่อสาร. ค้นเมื่อวัน 4 ม.ค. 60 จาก http://www.manager.co.th/game/viewnews.aspx?NewsID=9590000105733 |